และท้ายสุด เขาก็พยายามเอาชนะความกลัวทะเล ด้วยการก้าวเดินลงไปในทะเล จากตื้นไปลึกและลองว่ายน้ำโต้กระแสคลื่นที่ทำให้เขากลัวจนตัวสั่น
หลายครั้งที่ข้าอยากให้ตัวข้าเห็นแก่ตัวพอที่จะพยายามทำให้เขารักทำให้เขาระลึกถึงข้าได้อีกครั้ง
เขาก็เลยรู้สึกท้อใจ และคิดว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปคงจะไม่ดีแน่
คติสอนใจ : ความเกียจคร้านแม้จะทำให้เราสบาย แต่ก็อาจนำทุกข์ภัยมาสู่ตนได้
หลังจากนั้นมาปีแล้วปีเล่าเวลาผ่านไปศตวรรษทบศตวรรษที่หญิงสาวเฝ้าตามหาชายหนุ่มคนรัก
วันหนึ่ง เขาพบหญิงสาวมานอนสลบอยู่ที่ชายหาดใกล้ ๆ บ้านของเขา ชายหนุ่มรีบอุ้มหญิงสาวไปปฐมพยาบาลที่บ้าน เมื่อหญิงสาวรู้สึกตัว เธอก็รีบขอบคุณชายหนุ่ม แล้วบอกความจริงว่าเธอคือนางเงือกที่โดนคลื่นใต้น้ำซัดมาจนเกยตื้น เธอยังรู้สึกไม่สบายมาก จึงขอรบกวนชายหนุ่มอีกสักพัก
เคยเป็นที่รักและต้องเฝ้ารอการกลับมาของเขาในชาติแล้วชาติเล่าตลอดกาล...
ถูกเฝ้าดูอย่างเย้ยเยาะโดยนางแม่มดผู้รอคอยเวลาที่หญิงสาวจะยอมรับว่า...
เชื่อว่าสูญพันธุ์แล้ว "ปลาซีลาแคนท์" ฟอสซิลมีชีวิตจากยุคไดโนเสาร์
นิทานปรับพฤติกรรมเด็ก เหมียวเหมียวกับโฮ่งโฮ่ง
"...เจ้าได้ละทิ้งความพยายามของเจ้าเสียแล้วล่ะหรือ...ความพยายามที่จะพิสูจน์
แต่เจ้าชายก็ตามมาทันพร้อมทั้งสู้กับมังกรจนกระทั่งมันพ่ายแพ้บินหนีไปและพาตัวเธอกลับไป
นิทานอีสปเรื่อง : สุนัขจิ้งจอกกับหน้ากาก
ชายคนหนึ่งนั่งตกปลามาเกือบทั้งวัน แต่ไม่ได้ปลาสักตัวเดียว เขาจึงล้มเลิกความตั้งใจและคิดจะกลับบ้าน ทันใดนั้น ก็มีปลาตัวหนึ่งติดเบ็ด แต่เป็นปลาตัวเล็กนิดเดียว เจ้าปลาน้อยอ้อนวอนขอชีวิต “ปล่อยให้ข้า ถ้าวันนี้ไว้ชีวิต ในวันข้างหน้าจะเติบโตเป็นปลาใหญ่ เนื้อแน่น นิทานรักของสองเรา ให้ท่านได้จับกิน” คนตกปลาบอกว่า เขาไม่รู้ว่าวันข้างหน้า ปลาน้อยจะหลงมาติดเบ็ดอีกหรือเปล่า พูดจบก็จับปลาใส่กระป๋องแล้วเดินกลับบ้าน